3 หน่วยงาน แลกเปลี่ยนข้อมูลราคาประเมินที่ดิน ยกระดับมาตรฐาน ความแม่นยำ : อินโฟเควสท์
ข่าวทั่วไป

กรมธนารักษ์ จัดพิธีลงนามความร่วมมือว่าด้วยการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านประเมินราคาทรัพย์สิน ระหว่างกรมธนารักษ์ ธนาคารกรุงไทย (KTB) และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เชื่อมโยง และบูรณาการฐานข้อมูลราคาประเมินทรัพย์สินร่วมกัน เสริมให้กระบวนการประเมินราคาทรัพย์สินมีประสิทธิภาพ แม่นยำ รวดเร็ว และเป็นธรรม มากยิ่งขึ้น
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ความร่วมมือนี้ เป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบประเมินราคาทรัพย์สินและการพิจารณาสินเชื่อของประเทศ ซึ่งการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการเงิน จะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านการประเมินราคาทรัพย์สิน และการอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาน และความร่วมมือนี้ จะเป็นต้นแบบที่ดีในการพัฒนาระบบข้อมูลและการให้บริการของภาครัฐ และภาคการเงินในอนาคต
ด้าน นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า การลงนาม MOU เป็นการบูรณาการความร่วมมือภายใต้บันทึกข้อตกลง ของทั้ง 3 หน่วยงาน คือ กรมธนารักษ์ ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการภาครัฐในการประเมินราคาที่ดินให้มีความแม่นยำ โปร่งใส และช่วยลดขั้นตอนในการสืบค้นราคาประเมิน อีกทั้งภาคธนาคารก็จะมีฐานข้อมูลที่ช่วยเพิ่มความเร็วให้การพิจารณาสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัย
ภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ กรมธนารักษ์ จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลให้ทั้ง 2 หน่วย นำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบในการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ยื่นขอสินเชื่อ ดังนี้
1. บัญชีราคาประเมินทรัพย์สิน ประกอบด้วย บัญชีราคาประเมินที่ดิน, บัญชีราคาประเมินห้องชุด และบัญชีราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง
2. ข้อมูลหน่วยที่ดิน ประกอบด้วย ชื่อหน่วยที่ดิน, ความลึกมาตรฐาน (เมตร) และราคาประเมินที่ดินรายหน่วยที่ดิน (บาทต่อตารางวา)
ในส่วนของ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ จะแลกเปลี่ยนข้อมูลให้กรมธนารักษ์นำไปใช้เป็นข้อมูลในการสอบทานข้อมูลราคาซื้อขายจดทะเบียน เพื่อใช้ในการกำหนดราคาประเมินที่ดินรายหน่วยที่ดิน ดังนี้
1. ข้อมูลราคาประเมินสินเชื่อของอสังหาริมทรัพย์ที่นำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ประกอบด้วย ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด
2. ข้อมูลราคาตลาดแปลงที่นำมาใช้ประกอบการประเมินราคาหลักทรัพย์ ประกอบด้วย ที่ดิน และห้องชุด
นายเอกนิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมธนารักษ์ ได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “เพิ่มมูลค่าและคุณค่าทรัพย์สินของแผ่นดิน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม เดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน” ผ่านกลยุทธ์ VALUE ซึ่งเสาที่ 4 ของกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนนี้ คือ “การประเมินราคาทรัพย์สิน” (A : Appraise) เป็นการเพิ่มความแม่นยำในการประเมินราคาที่ดิน การที่กรมธนารักษ์ได้รับความร่วมมือจาก 2 ธนาคารใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ เข้ามาช่วยเติมเต็มข้อมูลนั้น จะช่วยให้ราคาประเมินของกรมธนารักษ์ เกิดความแม่นยำยิ่งขึ้น และยังเป็นการยกระดับบัญชีราคาประเมินทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ ให้มีความสอดคล้องเชิงพื้นที่ และเหมาะสมตามสภาวะเศรษฐกิจมากขึ้นอีกด้วย
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ KTB กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ โดยก่อให้เกิดประโยชน์ต่อหลายภาคส่วน ทั้งการตรวจสอบทรัพย์สิน คุณภาพลูกหนี้ ด้วยต้นทุนที่ลดลง ช่วยลดความเสี่ยง และสามารถช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ทำให้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงด้วยข้อมูลกลางที่ได้มาตรฐาน โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้คนไทยทุกคนเข้าถึงบริการด้านการเงิน และการลงทุนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำ (Financial Inclusion) ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมไปถึง SME ที่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ด้วยการประเมินหลักทรัพย์ค้ำประกันที่แม่นยำและรวดเร็ว ทำให้เกิดเป็นการบูรณาการแบบองค์รวม
“โครงการความร่วมมือนี้ มีเป้าหมายเพื่อจัดทำฐานข้อมูลกลาง และพัฒนากลไกดิจิทัลอ้างอิงราคาประเมินทรัพย์สินให้เป็นมาตรฐานเดียว เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูล และรองรับการวิเคราะห์เชิงนโยบายในอนาคต”นายผยง กล่าว
ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ จะสามารถใช้ข้อมูลจากภาคธนาคารปรับปรุงฐานข้อมูลให้ใกล้เคียงราคาตลาด และวิเคราะห์เชิงพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้การคุ้มครองข้อมูลลูกค้าตาม PDPA ขณะเดียวกัน ธนาคารกรุงไทย สามารถใช้บัญชีราคาประเมินและแผนที่แปลงที่ดินดิจิทัลจากกรมธนารักษ์ ประกอบการพิจารณาสินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว และครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพฐานข้อมูลให้เกิดประโยชน์ในแง่ของเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 มิ.ย. 68)
Tags: KTB, กรมธนารักษ์, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธอส., ประเมินราคาทรัพย์สิน, ผยง ศรีวณิช, เผ่าภูมิ โรจนสกุล, เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ- 最近发表
- 随机阅读
-
- 小区垃圾桶减少反而整洁彰显城市文明提升
- 深圳彩田村垃圾分类示范小区
- 如何让家常鲫鱼汤变得更温婉:鲫鱼萝卜奶汤
- Thanh long Bình Thuận đang 'tàn lụi'?
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวน นักลงทุนประเมินการค้าจีน
- 中国最南端的暴龙类有新发现
- 人生最最受益的10本书 2025最畅销的文学作品
- 奥司他韦涨价了?药店回应:价格水平基本保持一致
- Best MacBook Air deal: New M4 MacBook Air under $850
- 2025年长春初中排名靠前的学校 入学条件是什么
- 孟耿如经纪人回应解约 吴宗宪回应黄子佼孟耿如离婚传闻
- 全国铁路警方即日起严打猥亵违法犯罪
- 《念念》(刘若英演唱)的文本歌词及LRC歌词
- 2020最后一个月智能垃圾桶已在这些地方投放使用
- GPU Availability and Pricing Update: November 2021
- 2025年长春初中排名靠前的学校 入学条件是什么
- 2025年宁德初中排名靠前的学校 入学条件是什么
- 三年级想象作文:马良的神笔
- 人生最最受益的10本书 2025最畅销的文学作品
- 狂飙演员转做主播月入不足3千 称不知以后路会怎么走
- 搜索
-
- 友情链接
-